สก็อตติชโฟลด์ สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเลี้ยงแมวสายพันธุ์สก็อตติชโฟลด์

สก็อตติชโฟลด์ อีกหนึ่งสายพันธุ์แมวยอดนิยม ประกอบกับความโดดเด่นของหูพับ หัวกลม ตากลมโต คอสั้น ทำให้กลายเป็นตุ๊กตาที่หลายคนหลงรักตั้งแต่แรกเห็น แมวพันธุ์สก็อตติชโฟลด์ที่เราเห็นโดยทั่วไปมีขนสั้น แต่ก็มีแมวสก็อตติชโฟลด์ขนยาวด้วย นี่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเลี้ยงแมวขนยาว

สก็อตติชโฟลด์ มาจากต้นกำเนิดและธรรมชาติของพอเมอเรเนียน นอกจากรูปร่างหน้าตาแล้ว สิ่งที่ทำให้เหล่าทาสรักเจ้าสก็อตติชโฟลด์ ก็คือความซุกซนราวกับแมวของเล่น แต่ไม่ซนเกินไป ปีนไม่ได้ กัดไม่ได้ เทียบกับแมวเร็วทั่วไป ค่อนข้างอ่อนโยน ใจดี ชอบอยู่กับเจ้าของ เข้ากับเด็กได้เหมือนสัตว์อื่นๆ

นอกจากนี้ ข้อดีของแมวสก็อตติชโฟลด์ คือหัวกลมและหูอยู่ใกล้หัว อีกทั้งลำตัวยังน่ากลัวและหางยาวอีกด้วย ความยาวของหางพับประมาณไหล่ หางไม่แข็งหรือโค้ง นี่คือลักษณะสำคัญของสายพันธุ์สก็อตติชโฟลด์ที่พร้อมจะเรียกหาได้ตลอดเวลา รวมสิ่งที่จำเป็นในการซื้อลูกแมว มาดูลักษณะโดยรวมของแมวสายพันธุ์นี้กัน

ดังที่ฉันได้กล่าวไปแล้วว่า สก็อตติชโฟลด์เป็นจุดเด่นของสายพันธุ์นี้ บางคนบอกว่าเขาน่ารักเหมือนโดราเอมอนถือลูกบอล บางคนบอกว่าเขาดูเหมือนนกฮูกเพราะเขามีตาโต แต่นอกจากพันธุ์สก็อตติชโฟลด์เป็นแมวหูพับแล้ว และใบหูของแมวเริ่มสังเกตได้เมื่ออายุ 3 สัปดาห์ จะเริ่มเห็นหูพับ หูเล็ก ขนสั้น และยาวต่างกัน ในแง่ของโครงสร้างร่างกาย

สายพันธุ์นี้เป็นของตระกูลแมวขนาดกลาง น้ำหนักรวมประมาณ 4-5 กิโลกรัม หัวกลม หน้าผากกลม ปากกระบอกปืนไม่สูง คอสั้น ลำตัวไม่สั้นหรือยาวเกินไป ความยาวสั้นถึงปานกลางพร้อมขาที่แข็งแรง สายพันธุ์สก็อตติชโฟลด์มีขนหนา อาจเป็นผมสั้นหรือยาวในสีหายาก เช่น สีขาว สีฟ้า สีดำ สีส้ม สีครีม หรือสีช็อกโกแลต เช่นเดียวกับแมวตัวอื่นๆ

อายุขัยเฉลี่ยของแมวสายพันธุ์นี้คือ 11-14 ปี สิ่งหนึ่งที่ห้ามไม่ให้ลูกแมวผสมพันธุ์กับแมวพันธุ์สก็อตติชโฟลด์ที่เป็นพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่ง เพราะหูพับเกิดจากยีนด้อย การผสมยีนด้อยอาจทำให้ลูกแมวสก็อตติชโฟลด์ไม่แข็งแรง และปัญหาข้อและกระดูก คุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์ของคุณ ก่อนที่จะรับเลี้ยงลูกแมว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับพวกมัน

เมื่อเลี้ยงแมวพันธุ์สก็อตติชโฟลด์ ต้องศึกษาโรคต่อไปนี้ ที่อาจเกิดขึ้นกับแมวสายพันธุ์นี้ คือ Osteochondral Dysplasia หนึ่งในโรคที่พบบ่อยของสายพันธุ์นี้ เนื่องจากยีนหูพับของแมวเกิดจากยีนด้อยในกระดูกอ่อนใบหู ข้อต่อหรือกระดูกอ่อนบริเวณหาง กรงเล็บ กระดูกขา กระดูกสันหลัง และส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ล้วนมีความเสี่ยงต่อความเสียหาย

อาการที่พบได้บ่อยคือหางแข็ง กระดูกปูด ขาแข็ง แมวไม่กระโดด ปวด อาการถ่ายอุจจาระลำบาก โผล่ตอนอายุ 2 เดือน ไม่มีวิธีรักษาโรคนี้ แต่สามารถผ่าตัดเอากระดูกออกได้ หรือรักษาตามอาการ หากคุณมีอาการเหล่านี้ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยอย่างละเอียด

โรคไต polycystic หรือการสะสมของของเหลวในไต นี่เป็นอีกโรคที่สามารถพบได้ในแมวพันธุ์ สก็อตติชโฟลด์ อาจทำให้ไตทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น ไตวายได้ ผมเคยพาแมวไปตรวจไตตอนเด็กๆ ไตทำงานหนักมาก ส่วนการรักษาโรคนี้สัตวแพทย์จะทำการรักษาทั้งตามอาการและที่ต้นเหตุ

โรคนี้พบได้บ่อยในแมวสายพันธุ์อื่นๆ อาการที่อาจดีขึ้นด้วยยาและอาหาร ได้แก่ เบื่ออาหาร อ่อนแรง และขาหลังอ่อนแรง อาการหอบสามารถรักษาได้ด้วยยาที่ทำให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนเช่น ลิ่มเลือดและหัวใจล้มเหลว ความต้องการทางโภชนาการของแมวพันธุ์สก็อตติชโฟลด์ ไม่แตกต่างจากแมวสายพันธุ์อื่นมากนัก

เจ้าของอาหารสามารถให้อาหารแห้ง อาหารเปียก ขนมโฮมเมด ขนมแมวเลีย และอาหารเสริมวิตามินแก่ลูกสุนัขได้ ทารกจะต้องกินนมแมวก่อน โดยสอบถามว่าฟาร์มเคยเลี้ยงอาหารยี่ห้ออะไรมาก่อน ป้องกันไม่ให้แมวรู้สึกเครียดเกี่ยวกับการปรับอาหาร และท่าทางหลังจากการรับเลี้ยง สลับการกินอาหารเปียกเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ เมื่อแมวสก็อตติชโฟลด์ เริ่มเข้าสู่ระยะโตเต็มวัย

เจ้าของสามารถค่อยๆ เปลี่ยนจากอาหารแห้งเป็นอาหารแมวได้ แต่ระวังอย่ากินมากเกินไป สายพันธุ์นี้มีความกระตือรือร้นหรือออกกำลังกายน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น สิ่งนี้นำไปสู่พลังงานน้อยลง และมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักเกิน สามารถแทนที่ด้วยอาหารเปียกหรืออาหารทำเอง เช่น ไก่ตุ๋น ปลาต้ม ฯลฯ ซึ่งมีประโยชน์สำหรับคนตัวใหญ่

หลังจากที่แมวอายุได้ 9 ปี เจ้าของจะเริ่มเปลี่ยนไปกินอาหารแมวระดับไฮเอนด์ได้ เมื่อทำกิจกรรมน้อยลง พลังงานก็จะถูกใช้น้อยลง หากแมวของคุณมีความผิดปกติแต่กำเนิด ควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนเลือกอาหารที่ตรงกับความต้องการด้านสุขภาพของคุณ นอกจากจะให้น้ำแก่สก็อตติชโฟลด์แล้ว ควรวางน้ำพุแมวไว้หลายจุดและทำความสะอาดเป็นประจำ เพราะแมวมีนิสัยรักความสะอาด

การใช้น้ำพุจะช่วยให้แมวของคุณดื่มน้ำมากขึ้น ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคไตของแมว เมื่อรับเลี้ยงแมวพันธุ์สก็อตติชโฟลด์จะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดในช่วง 2 สัปดาห์แรกของการปรับตัวให้ชินกับสภาพ ควรลดขนาดยาลงเรื่อยๆ หากจำเป็น ต้องทำความสะอาดหูและแปรงฟันเพื่อให้ฟันเคยชิน

แปรงฟันแมวอย่างน้อย 4-5 ครั้งต่อสัปดาห์ สก็อตติชโฟลด์ขนยาว ต้องแปรงขนบ่อยขึ้นเพื่อนำขนที่ตายออก ป้องกันขนพันกัน รักษาสุขภาพ และความสวยงาม แมวไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อยเท่าสุนัข แต่อย่างน้อยควรอาบน้ำเดือนละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะแมวขนยาว และควรใช้แชมพูสำหรับแมวเท่านั้น

บทความที่น่าสนใจ : เกษตร การทำความเข้าใจเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตรคืออะไร