อาหาร ปลาแซลมอนเป็นปลาทะเลที่คนมากมายชอบกิน อร่อยและเต็มไปด้วยไขมันดี ยังได้ชื่อว่าเป็นปลาที่ดีต่อสุขภาพ ดีต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด และอาจป้องกันโรคบางชนิดได้ ปลาแซลมอน มีกรดไขมันโอเมกา 3 โปรตีน วิตามินบี วิตามินดี โพแทสเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระ ตัวอย่างเช่น สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อการทำงานของส่วนต่างๆ ในร่างกาย ปลาแซลมอนจึงไม่ใช่แค่อาหารไดเอทเท่านั้น แต่อาจมีฤทธิ์ต้านโรคได้
กินแซลมอน รักษาโรคได้จริงหรือ สามารถศึกษาได้จากประเด็นต่อไปนี้ ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบเกิดจากการมีจุลินทรีย์เกาะตามผนังหลอดเลือดหัวใจจนทำให้หลอดเลือดตีบตัน หากมีไขมันในเลือดมากเกินไป โดยเฉพาะ ไขมันเลว LDL อาจทำให้เกิดการอุดตันของกระแสเลือด นำไปสู่โรคต่างๆ และทำให้ร่างกายมีแนวโน้มที่จะเกิดโรคดังกล่าวได้
ปลาแซลมอนมีกรดไขมันโอเมกา 3 ที่ดีต่อคุณซึ่งอาจช่วยชะลอการสะสมของคราบจุลินทรีย์ ในการศึกษาหนึ่ง อาสาสมัครที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงตั้งแต่ปกติถึงเล็กน้อยรับประทานปลาแซลมอน วอลนัต และอาหารควบคุมที่ไม่มีปลาแซลมอนหรือวอลนัตเป็นเวลา 4 สัปดาห์ กลุ่มตัวอย่างมีระดับคอเลสเตอรอลรวมและ LDL ลดลงมากที่สุด การกินปลาแซลมอนช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในขณะที่เพิ่ม HDL คอเลสเตอรอล เมื่อเทียบกับอาหารควบคุมที่ไม่มีสารอาหารอย่างใดอย่างหนึ่ง
ในการศึกษาอื่น ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ 60 คนโดยมีการแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกกินน้ำมันปลาที่ทำจากปลาแซลมอน 100 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มที่สองกินน้ำมันคาโนลา 100 เปอร์เซ็นต์ และกลุ่มที่สามกินน้ำมันปลา หลังจากหกสัปดาห์ ระดับไตรกลีเซอไรด์และสารก่อการอักเสบในกลุ่มน้ำมันปลาแซลมอนต่ำกว่ากลุ่มน้ำมันคาโนลาอย่างมีนัยสำคัญ
เพื่อให้ตัวเองและทารกในครรภ์มีสุขภาพแข็งแรงในระหว่างตั้งครรภ์และคลอดอย่างปลอดภัย คุณแม่ต้องใส่ใจสุขภาพเป็นพิเศษ การเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ นอกจากจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายแล้ว การรับประทานปลาแซลมอนยังช่วยให้สุขภาพของสตรีมีครรภ์ดีขึ้นอีกด้วย
การศึกษาดำเนินการกับหญิงตั้งครรภ์ 62 คนในช่วงตั้งครรภ์ 19 สัปดาห์ที่รับประทานปลาแซลมอน 160 กรัม 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หญิงตั้งครรภ์อีก 59 คนรับประทาน อาหาร ตามปกติก่อนคลอด ผลการทดลองพบว่าการรับประทานปลาแซลมอนช่วยเพิ่มกรดอะมิโนบางชนิดที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการบำรุงระบบต่างๆ ในร่างกาย แต่ก็มีอาหารอื่นๆ ที่สามารถให้สารอาหารที่จำเป็นในระหว่างตั้งครรภ์ได้
ดังนั้น สตรีมีครรภ์ควรรับประทานปลาหรืออาหารอื่นๆ ในปริมาณที่พอเหมาะภายใต้คำแนะนำของแพทย์ และควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคทุกครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือโรคประจำตัว นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงและกระปรี้กระเปร่าแล้ว การนอนหลับให้เพียงพอยังช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ดีขึ้นด้วย เพิ่มอารมณ์และคลายความเครียด การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ปลาแซลมอนสามารถช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้นและมีสุขภาพแข็งแรง
การศึกษาเกี่ยวข้องกับผู้ชายอเมริกัน 89 คนโดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกกินปลาแซลมอน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ อีกกลุ่มหนึ่งรับประทานเนื้อไก่ เนื้อหมู และเนื้อวัวเป็นเวลา 7 เดือน ในขณะที่การบริโภคปลาแซลมอนอาจเพิ่มระดับวิตามินดี ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับคุณภาพการนอนหลับที่ดีขึ้นและประสิทธิภาพการนั่งประจำที่ เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่กินปลาแซลมอน
อย่างไรก็ตาม การทดลองนี้เป็นการทดลองแบบกลุ่ม อาสาสมัครยังอาจกินปลาแซลมอนในขณะที่บริโภคอาหารประเภทอื่นที่ส่งผลดีต่อการนอนหลับ ดังนั้นควรทำการทดลองเพิ่มเติมในประชากรที่แตกต่างกันและควบคุมปัจจัยที่เกี่ยวข้องให้ดี ยืนยันความถูกต้องในด้านนี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น อาการลำไส้ใหญ่บวมเป็นแผลเรื้อรังคือการอักเสบของเซลล์เยื่อบุผิวของลำไส้ใหญ่และทวารหนัก แผลที่ผนังลำไส้ทำให้เลือดออกตามผนังลำไส้หรือลำไส้บีบตัวเร็วขึ้นจนปวดท้อง ท้องเสีย มีมูกเลือดปนเลือด
สมมติฐานหนึ่งคือสารอาหารและกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนในปลาแซลมอนช่วยต่อสู้กับการอักเสบและรักษาโรคลำไส้อักเสบได้ ในการทดลองหนึ่ง ผู้ป่วย 12 รายที่เป็นโรคนี้กินปลาแซลมอนแอตแลนติก 600 กรัมต่อสัปดาห์เป็นเวลา 8 สัปดาห์ แม้ว่าผลลัพธ์ที่ได้อาจเป็นประโยชน์สำหรับการจัดการอาการในผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบดังกล่าว แต่การศึกษานี้เป็นเพียงการทดลองเล็กๆ ดังนั้นจึงควรศึกษาประสิทธิภาพที่แท้จริงของปลาแซลมอนเพิ่มเติมก่อนที่จะนำไปใช้กับผู้ป่วยจริงเพื่อบรรเทาอาการ
โดยทั่วไปคุณควรบริโภคปลาโอเมกา อย่างน้อยประมาณ 300 กรัมต่อสัปดาห์ ปลาที่มีไขมันโดยเฉพาะปลาแซลมอนมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์มากมาย แต่งานวิจัยบางชิ้นพบว่าปลาและสัตว์มีเปลือก เช่น ปลาแซลมอน กุ้ง และปลาทูน่ากระป๋องมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดมะเร็ง สารปรอทเป็นสารเคมีอันตรายที่อาจมีอยู่ในปริมาณเล็กน้อย ผู้บริโภคควรบริโภคปลาให้หลากหลาย เพื่อลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น
โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาทางการแพทย์ควรปรึกษาเรื่องแผนการรับประทานอาหารกับแพทย์ และการบริโภคอาหารแต่ละอย่างในระดับปานกลาง ได้แก่ ปลาแซลมอนสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร ปลาแซลมอนและปลาอื่นๆ สามารถรับประทานได้ในปริมาณที่แนะนำ อย่างไรก็ตาม การบริโภคปลาไม่ควรเกิน 340 กรัมต่อสัปดาห์ เพื่อป้องกันสารเคมีตกค้างที่เป็นอันตราย
เช่น สารปรอท เข้าสู่ร่างกาย แม้ว่าปลาแซลมอนจะเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของกรดไขมันโอเมกา 3 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปลาแซลมอนที่เลี้ยงในฟาร์ม แต่ก็เป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมกา 3 ด้วยเช่นกัน แต่นอกจากปลาแซลมอนแล้ว ผู้บริโภคยังสามารถได้รับโอเมกา 3 จากแหล่งอาหารอื่นๆ เช่น ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ปลาเนื้อขาว ปลาสำลี ปลากะพง ปลาสีดำ กุ้ง ถั่วเหลือง วอลนัต เมล็ดแฟลกซ์ เป็นต้น
บทความที่น่าสนใจ : สุขภาพ เมื่อเข้าสู่วัยกลางคนจะทำอย่างไรให้มีสุขภาพกระฉับกระเฉง